Page 5 - พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
P. 5

หน้า   ๒๘

              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๑๐   ก          ราชกิจจานุเบกษา                  ๒๔   มกราคม   ๒๕๖๐


                      “มาตรา  ๑๖/๑  ในคดีความผิดตามมาตรา  ๑๔  หรือมาตรา  ๑๖  ซึ่งมีคําพิพากษาว่าจําเลย

              มีความผิด  ศาลอาจสั่ง

                      (๑)  ให้ทําลายข้อมูลตามมาตราดังกล่าว
                      (๒)  ให้โฆษณาหรือเผยแพร่คําพิพากษาทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในสื่ออิเล็กทรอนิกส์  วิทยุกระจายเสียง

              วิทยุโทรทัศน์  หนังสือพิมพ์  หรือสื่ออื่นใด  ตามที่ศาลเห็นสมควร  โดยให้จําเลยเป็นผู้ชําระค่าโฆษณา

              หรือเผยแพร่
                      (๓)  ให้ดําเนินการอื่นตามที่ศาลเห็นสมควรเพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทํา

              ความผิดนั้น
                      มาตรา  ๑๖/๒  ผู้ใดรู้ว่าข้อมูลคอมพิวเตอร์ในความครอบครองของตนเป็นข้อมูลที่ศาลสั่งให้ทําลาย

              ตามมาตรา  ๑๖/๑  ผู้นั้นต้องทําลายข้อมูลดังกล่าว  หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่บัญญัติไว้

              ในมาตรา  ๑๔  หรือมาตรา  ๑๖  แล้วแต่กรณี”
                      มาตรา  ๑๒  ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา  ๑๗/๑  ในหมวด  ๑  ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

              แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  พ.ศ.  ๒๕๕๐
                      “มาตรา  ๑๗/๑  ความผิดตามมาตรา  ๕  มาตรา  ๖  มาตรา  ๗  มาตรา  ๑๑  มาตรา  ๑๓  วรรคหนึ่ง

              มาตรา  ๑๖/๒  มาตรา  ๒๓  มาตรา  ๒๔  และมาตรา  ๒๗  ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง

              มีอํานาจเปรียบเทียบได้
                      คณะกรรมการเปรียบเทียบที่รัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งให้มีจํานวนสามคนซึ่งคนหนึ่งต้องเป็น

              พนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

                      เมื่อคณะกรรมการเปรียบเทียบได้ทําการเปรียบเทียบกรณีใดและผู้ต้องหาได้ชําระเงินค่าปรับ
              ตามคําเปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกําหนดแล้ว  ให้ถือว่าคดีนั้นเป็นอันเลิกกัน

              ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

                      ในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ชําระเงินค่าปรับภายในระยะเวลาที่กําหนด  ให้เริ่มนับอายุความในการฟ้องคดีใหม่
              นับตั้งแต่วันที่ครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว”

                      มาตรา  ๑๓  ให้ยกเลิกความในมาตรา  ๑๘  และมาตรา  ๑๙  แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วย
              การกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  พ.ศ.  ๒๕๕๐  และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

                      “มาตรา  ๑๘  ภายใต้บังคับมาตรา  ๑๙  เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มี

              เหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี้  หรือในกรณีที่มีการร้องขอตามวรรคสอง
              ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอํานาจอย่างหนึ่งอย่างใด  ดังต่อไปนี้  เฉพาะที่จําเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็น

              หลักฐานเกี่ยวกับการกระทําความผิดและหาตัวผู้กระทําความผิด
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10